ผิวหนังของคนมีความหนาประมาณ 3-5 มิลลิเมตร ประกอบด้วย 3 ชั้น ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนัง และ ชั้นไขมัน การที่ผิวหนังของคนมีสีต่างๆ เนื่องจากพิกเมนต์ดำและสีน้ำตาล และบิลิรูบิน เป็นพิกเมนต์สีเหลือง นิโกรมีผิวหนังเป็นสีดำ และสีน้ำตาล เนื่องจากมีเมลานินมากกว่าพิกเมนต์อื่น พวกคอเคเซี่ยนมีผิวหนังเป็นสีอมชมพู เนื่องจากมีฮีโมโกลบิน มากกว่าพิกเมนต์อื่น ส่วนพวกมองโกเลียนมีผิวหนังสีต่างๆกัน สีขาวเหลืองและสีน้ำตาล ทั้งนี้เนื่องจากการรวมตัวของพิกเมนต์ ฮีโมโกลบิน เมลานินและ บิลิรูบิน เมลานินทำให้ผิวหนังมีสีน้ำตาลและมีผลต่อการเกิดฝ้าและกระ เมลานินถูกสังเคราะห์ในเซลล์สร้างสีบริเวณฐานของหนังกำพร้า ในสภาวะปกติ เซลล์สร้างสีจะสร้างเม็ดสีออกมาในอัตราและปริมาณสม่ำเสมอและเท่าๆกันทุกจุด เม็ดสีจะถูกปล่อยออกมากระจาย อยู่ในชั้นผิวหนังสม่ำเสมอกัน เมื่อได้รับการกระตุ้นจากรังสีในแสงแดด สาเหตุของการเกิดฝ้า เนื่องจากสาเหตุร่วม คือ การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในระบบภายในร่างกาย เช่น จากการตั้งครรภ์ หรือ การรับประทานยาคุมกำเนิด การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนภายนอกร่างกาย เช่น จากการทาครีมบำรุงผิวที่มีฮอร์โมนบางชนิด หรือยาที่มีสเตียรอยด์เป็นส่วนผสม และการได้รับรังสีอุลตราไวโอเลตจากแสงแดดมากเกินไป มีผลทำให้เกิดการแปรปรวนของเซลล์สร้างสีบางบริเวณ ทำให้มีการสร้างเมลานินจำนวนมากจนมองเห็นเป็นหย่อมสีเข้มมากกว่าปกติ หรือ เป็นฝ้า ส่วนกระ เป็นจุดเล็กๆ กระจายทั่วใบหน้า ไม่รวมเป็นแผ่น เกิดจากแสงแดดโดยตรง เมื่ออายุมาก กระที่เกิดในเด็ก และคนอายุน้อย มีกรรมพันธุ์มาเกี่ยวข้อง
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ขั้นตอนพื้นฐานในการสร้างเมลานิน
|
|
|
ไทโทรซิน ® โดพา ® โดพาควิโนน ® ฟีโอเมลานิน สีแดง สีเหลือง ® ยูเมลานิน สีน้ำตาล สีดำ |
|
|
ผลิตภัณฑ์ทำให้ผิวขาวขึ้นเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เพื่อทำให้ผิวทั้งหมดขาวขึ้น ทำให้ฝ้าและกระจางลง สารออกฤทธิ์สำคัญทำให้หน้าขาวต้องรบกวนขั้นตอนการสร้างเมลานินหนึ่งขั้นตอน หรือมากว่าหนึ่งขั้นตอน สารทำให้ผิวขาวที่ใช้กันมากอาจแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม |
|
|
กลุ่มที่ 1 สารฟอกสี (Bleaching Agents) เช่น ไฮโดรควิโนน โมโนเบนโซน และ ปรอทแอมโมเนีย ทั้งหมดนี้เป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง
|
|
|
กลุ่มที่ 2 สารทำให้ผิวขาว (Whitening Agents) ที่นิยมใช้กันมากในเครื่องสำอางในท้องตลาดเมืองไทยได้แก่ อาร์บิวติน กรดโคจิด และ แอสคอร์บิกแมกนีเซียมฟอสเฟต สารดังกล่าวยังไม่มีประกาศควบคุมโดยเฉพาะ อาร์บิวติน เป็นไฮโดรควิโนน ไกลโคไซด์
แมกนีเซียมแอสคอร์บิกฟอสเฟส เป็นฟอสเฟตเอสเทอร์ของวิตามินซี ที่มีความคงสภาพ ได้จากการสังเคระห์ทางเคมี เมื่อใช้เป็นส่วนผสมในครีมหรือโลชั่นทาผิวหนัง จะไฮโดรไลซ์ได้โดยง่ายด้วยเอนไซม์ฟอสฟาเตสที่ผิวหนังให้วิตามินซี (กรดแอสคอร์บิก) ซึ่งออกฤทธิ์ขัดขวางการสร้างเมลานินทำให้ผิวขาวขึ้น ขัดขวางการเกิดอนุมูลอิสระซึ่งทำให้ผิวแก่ ในขณะเดียวกันช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน |
|
|
กลุ่มที่ 3 สารปกคลุมผิว (Covering Agents) ใช้พิกเมนต์ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติทึบแสงและมีสีขาวทันที แต่เมื่อล้างออกสีผิวหนังคงเดิมไม่ได้ขาวขึ้น สารที่มีประสิทธิภาพสูงสุดคือทิตาเนียมไดออกไซด์ ส่วนสารอื่นที่ใช้ เช่น ซิงค์ออกไซด์ ทัลคัม บิสมัสซับไนเตรต และคาโอลิน พิกเมนต์ เหล่านี้นอกจากทำให้ผิวขาวแล้ว ในขณะเดียวกันยังเป็นสารกันแดดด้วยเนื่องจากคุณสมบัติทึบแสง ผลิตภัณฑ์ทำให้ผิวขาวบางตำรับใช้ทิตาเนียมไดออกไซด์ผสมกับสมุนไพรสกัด (Wildberry extract) ซึ่งมีส่วนผสมของกรดโคจิก |
|
|
กลุ่มที่ 4 เอเอชเอ หรือ อลฟาไฮดรอกซีแอซิด เรียกกันว่า กรดผลไม้ เป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในอาหาร เช่น กรดเมลิกในแอปเปิ้ล กรดซิตริกในมะนาว กรดทาร์ทาริกในองุ่น กรดแลกติกในนมเปรี้ยว และกรดไกลโคลิกในอ้อย เป็นต้น เอเอชเอช่วยละลายเนื้อเยื่อเกี่ยวพันซึ่งยึดอยู่ระหว่างเซลล์ที่ตายแล้ว ลอกออกอย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอ ทำให้รูขุมขนไม่อุดตันช่วยในการขับน้ำคัดหลั่งของต่อมเหงื่อ ลดรอยฝ้าและจุดด่างดำ และยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีกด้วย การเร่งหลุดออกเซลล์ทำให้ริ้วรอยเล็กๆ และรอยเหี่ยวย่นหลังจากการใช้หลายครั้ง และสะท้อนแสงอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย จากการวิจัยการใช้ผลิตภัณฑ์เอเอชเอในคนปี ค.ศ. 2000 ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากสำนักคณะกรรมการอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา การประเมินผลการวิจัยพบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างการใช้เอเอชเอกับการลดเวลาในการทำให้ผิวหนังแดงขอบชัด ซึ่งหมายความว่าเอเอชเอทำให้ผิวหนังไวต่อรังสีอุลตร้าไวโอเลตมากขึ้น และเมื่อหยุดใช้ผิวหนังจะกลับคืนสู่ปกติภายในหนึ่งสัปดาห์ ส่วนผลการใช้ผลิตภัณฑ์เอเอชเอในระยะยาวกำลังระหว่างการวิจัย การที่ผิวหนังขาวขึ้นจากการใช้สารทำให้ผิวขาวซึ่งออกฤทธิ์ลดการสร้างเมลานิน มีผลทำให้ผิวหนังอ่อนแอลง มีความไวต่อรังสีอุลตราไวโอเลตมากขึ้น จึงควรใช้ร่วมกับผิวหนังอ่อนแอลง มีความไวต่อรังสีอุลตราไวโอเลตมากขึ้น จึงควรใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์กันแดด และหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดจัดเพื่อป้องกันการเกิดฝ้า
ผลิตภัณฑ์ Prana-ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และบำรุงผิว จากมะเฟืองและใบบัวบกจะอยู่ในกลุ่มนี้ทั้งหมด โดยใช้กรดเอเอชเอ ที่ได้จากผลมะเฟือง ในการผลัดเซลล์ผิว และใบบัวบก ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวกระชับได้ดี ซึ่งเป็นสารจากธรรมชาติ 100% และไม่ผสมสารฟอกสีผิว ในผลิตภัณฑ์ ทำให้ปลอดภัยต่อผู้ใช้้ และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง
ประกอบด้วย
ดูแลผิวหน้า: เจลล้างหน้า และโทนเนอร์ ช่วยลดรอยฝ้า กระ หมองคล้ำ รอยสิว ดูแลผิวกาย: เกลือสครับภูเขาขัดผิว, เจลอาบน้ำ, โลชั่นปรับสภาพพร้อมบำรุงผิว
เพื่อสุขภาพผิวที่ดีของเราเอง ควรเลือกสารที่ใช้ในเครื่องสำอางอย่างปลอดภัย และไม่เกิดผลเสียในระยะยาว โดยสารประกอบหลักที่มาจากธรรมชาติ ถือว่ามีความปลอดภัยมากที่สุด และเกิดผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย เปรียบเทียบกับสารที่ได้จากสารเคมีสังเคราะห์ โดยเฉพาะเครื่องสำอาง ที่แอบใส่สารฟอกสีผิว ที่เป็นสารต้องห้ามทางประกาศ อย. สังเกตได้จากใช้แล้วเห็นผลครั้งแรก หรือในระยะเวลาอันสั้น ผู้บริโภคคิดว่าได้ผลดี แต่ในความเป็นจริง หารู้ไม่ว่าจะก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาว เช่นการเกิดด่างขาว ฝ้า กระ ถาวร หรือเกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพ ซึ่งอาจรักษาไม่ได้ หรือถ้าได้ ค่ารักษาและระยะเวลาที่ทำการรักษา ก็เสียค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น และกินเวลานาน
|
อ้างอิงเนื้อหาจาก : หนังสือความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งเป็นพิษ เล่ม 15 พ.ศ. 2544 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข หน้า9-14.
Prana Shop
Promotion
จัดส่งฟรี
ทุกชิ้น
(วันนี้- 31 ธันวาคม 2563)

| หน้าที่เข้าชม | 145,936 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 108,808 ครั้ง |
| ร้านค้าอัพเดท | 1 ธ.ค. 2568 |